เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๗ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (เมียนมาร์) เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Senior Officials Committee for the ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) - SOCA) สมัยพิเศษ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

                   ๑.  การติดตามรายงานว่าด้วยการประเมินผลครึ่งแผนของการดำเนินงานตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Mid-Term Review of the Implementation of the ASCC Blueprint (MTR) Report) สำนักงานเลขาธิการอาเซียนได้เสนอขอบเขตอำนาจหน้าที่ (Terms of Reference - TOR) สำหรับกลุ่มหลัก (core group) เพื่อวิจัยข้อแนะนำจาก MTR โดยประเทศสมาชิก อาเซียนได้เสนอให้กลุ่มหลักดังกล่าวจัดทำภาพรวมและข้อเสนอแนะสำหรับวิสัยทัศน์ภายหลังปี ๒๕๕๘ รวมทั้งกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากร อาทิ การวิเคราะห์เกี่ยวกับความต้องการด้านทรัพยากร และยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายของแผนงานการจัดตั้ง ASCC

                   ๒. การสร้างกลไกเพื่อให้กลุ่มหลักสามารถหารือกับผู้แทนองค์กรเฉพาะด้านภายใต้ ASCC ที่ประชุมได้สนับสนุนการหารือระหว่างกลุ่มหลักและผู้แทนจากองค์กาเฉพาะด้านภายใต้ ASCC อาทิ ผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข เรื่องข้อแนะนำจาก  MTR ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบข้อเสนอแนะของสำนักงานเลขาธิการอาเซียนที่จะให้การประชุมประสานงานเรื่อง ASCC (Coordinating Conference on the ASEAN Socio-Cultural Community - SOC-COM) เป็นที่ปรึกษาสำหรับองค์กรเฉพาะด้านต่าง ๆ ภายใต้ ASCC

                   ๓. ประเด็นเร่งด่วนของปี ๒๕๕๗ เมียนมาร์ได้เสนอประเด็นเร่งด่วนที่ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนจะให้ความสำคัญในปีนี้ ดังนี้ (๑) ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อบริหารจัดการ    ภัยพิบัติและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (๒) การออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมจะยกร่างแถลงการณ์ดังกล่าว เพื่อให้อาเซียนมีท่าทีรวมกันที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องนี้ (๓) กลไกอาเซียนเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน โดยการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านแรงงานมีแผนที่จะสร้างกลไกดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในปี ๒๕๕๗ (๔) กรอบอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งเป็นข้อริเริ่มของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน       ด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา สืบเนื่องจากปฏิญญาอาเซียน ว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ให้การรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๓ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ (๕) ศูนย์การเรียนรู้อาเซียนออนไลน์ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้มีศูนย์การเรียนรู้อาเซียนออนไลน์ที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นช่องทางให้ประชากรอาเซียนแสดงความคิดเห็น และจะเป็นฐานข้อมูลสำหรับนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ และนักวิจัย (๖) ประเด็นหลักสำหรับอาเซียนภายหลังจากปี ๒๕๕๘ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ากลุ่มหลักสำหรับ ASCC ควรมีบทบาทนำในการจัดทำภาพรวมของกระบวนการ สร้างวิสัยทัศน์ ASCC และเสนอวิสัยทัศน์ต่อคณะทำงานอาเซียนที่เกี่ยวข้องพิจารณา

                   ๔. แผนงานด้านการสื่อสารของ ASCC ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแผนงาน ด้านการสื่อสารของ ASCC เพื่อส่งเสริมการเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาเซียน ส่งเสริมบทบาทของ SOCA และองค์กรเฉพาะด้านในการประชาสัมพันธ์งานของ ASCC รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ศูนย์เรียนรู้อาเซียนออนไลน์ ที่ประชุมเห็นว่า ควรมีการประสานงาน และการสร้างแผนงานด้านการสื่อสารฯ ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทว่าด้วยการสื่อสารในอาเซียน พร้อมทั้งการประสานงานกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนและรัฐมนตรีอาเซียนด้านสารนิเทศ     

                   การประชุม SOCA สมัยพิเศษครั้งนี้ได้ส่งเสริมการนำแผนงานการจัดตั้ง ASCC ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการจัดตั้งกลุ่มหลักสำหรับ ASCC และการสนับสนุนการหารือระหว่างกลุ่มหลักและผู้แทนจากองค์กรเฉพาะด้าน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดประเด็นเร่งด่วน ของ ASCC สำหรับปี ๒๕๕๗ ซึ่งองค์กรเฉพาะด้านจะต้องดำเนินการต่อไปในด้านโครงการ และการจัดทำแถลงการณ์ร่วม เพื่อรายงานและนำเสนอต่อ SOCA ครั้งต่อไป โดย SOCA จะรายงานและนำเสนอต่อการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC Council) ตามลำดับ ก่อนที่จะมีการนำเสนอรายงานเรื่องความคืบหน้าของ ASCC และแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน เพื่อให้ผู้นำรับทราบ และให้ความเห็นชอบต่อไป

                   ผลการประชุม SOCA  สมัยพิเศษ แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะผลักดันให้มีการนำแผนงานฯ ไปปฏิบัติให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนตามปณิธานของประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง