เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2555 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในโอกาสเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting) การประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political-Security Community) และการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ASEAN Coordinating Council) ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ประเด็นสำคัญดังนี้

1) ทะเลจีนใต้ ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ (working dinner) วันที่่ 16 พฤศจิกายน 2555 ที่ประชุมได้ชมเชยไทยในฐานะประเทศผู้ประสานความสัมพันธ์กับจีนที่ได้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นระหว่างอาเซียนกับจีน อันเป็นผลจากการจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน เมื่อวันที่ 28-29 ตุลาคม 2555 ที่พัทยา พร้อมแสดงความเชื่อมั่นและความหวังว่าไทยจะผลักดันความร่วมมืออาเซียน-จีน และพัฒนาการของความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายในประเด็นเรื่องทะเลจีนใต้ ซึ่งเห็นพ้องกันว่าควรเร่งดำเนินการตามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea - DOC) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกันให้มากขึ้น

2) สถานการณ์ในรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาร์ได้แจ้งถึงความพยายามของรัฐบาลเมียนมาร์ในการคลี่คลายสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ที่ประชุมรวมทั้งไทยได้แสดงความเชื่อมั่นต่อการดำเนินการของรัฐบาลเมียนมาร์และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม อีกทั้งไม่ประสงค์จะให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นระหว่างประเทศ

3) ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดตั้งสถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์และศูนย์ทุนระเบิดภูมิภาคอาเซียน เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

4) ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Human Right Declaration - AHRD) จากการที่มีบางฝ่ายกังวลว่าปฏิญญานี้อาจจะไม่เป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจึงแจ้งว่า แม้ยกร่างปฏิญญาดังกล่าวจะแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แต่ปฏิญญานี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน อาเซียนควรร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อยกมาตรฐานสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคให้ได้เทียบเท่ามาตรฐานระหว่างประเทศ

5) ที่ประชุมหารือถึงความสนใจของหลายประเทศที่จะเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in South East Asia - TAC) ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องกับไทยว่า การพิจารณาการขอเข้าร่วมเป็นภาคีควรยึดตามแนวทางสำหรับการเข้าเป็นภาคี TAC เมื่อปี ค.ศ. 1976 โดยปัจจุบันมีภาคี 31 ประเทศ ซึ่งบราซิลได้ภาคยานุวัติอย่างเป็นทางการในครั้งนี้

6) ที่ประชุมได้หารือเรื่องการบริหารจัดการภัยพิบัติ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีจัดการฝึกร่วมรับมือภัยพิบัติระหว่างพลเรือนและหน่วยงานทางทหารครั้งที่ 3 ที่หัวหินในปี 2556 ด้านความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทยได้ยกร่างแผนปฏิบัติการภูมิภาคว่าด้วยการค้ามนุษย์ ด้านปัญหายาเสพติด ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านยาเสพติด เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ที่กรุงเทพฯ

7) สำหรับการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ACC) ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะทำงานระดับสูง (High Level Task Force) เพื่อรับทราบการดำเนินงานของอาเซียน หลังจากการที่กฎบัตรอาเซียนมีผลบังคับใช้มาแล้ว 3 ปี รวมทั้งรับทราบความคืบหน้าของการพิจารณาความพร้อมของติมอร์-เลสเต ในการสมัครสมาชิก ซึ่งการพิจารณายังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ นอกจากนี้ ได้มีการพิจารณารับรองผู้สมัครในตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนคนใหม่คือ นาย Le Luong Minh อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเวียดนาม