เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๘.๓๐ น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ในฐานะประธานคณะกรรมการอาเซียนในกรุงเวลลิงตัน ได้นำเอกอัครราชทูตฯ และข้าหลวงใหญ่อาเซียนประจำประเทศนิวซีแลนด์เข้าร่วมการสัมมนาโต๊ะกลมซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยสถานทูตไทย ณ กรุงเวลลิงตัน มหาวิทยาลัยวิคตอเรีย และ Asia Forum เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปีแห่งการก่อตั้งประชาคมอาเซียน
ทูตมาริษฯ ได้รับเชิญให้บรรยายให้กับผู้ฟังซึ่งประกอบด้วยนักศึกษา คณะอาจารย์ นักธุรกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และนักการเมืองของนิวซีแลนด์ได้รับทราบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความสำเร็จของประชาคมอาเซียนที่สามารถสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์ภายใต้เงื่อนไขของความแตกต่างที่มีอยู่ระหว่างกันในทุกๆ มิติ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งที่ประเทศไทยเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๗ โดยประเทศสมาชิกดั้งเดิม ๕ ประเทศได้แก่ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ด้วยการประกาศปฏิญญากรุงเทพฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยับยั้งการแพร่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่หลังจากที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยได้ประกาศนโยบาย “เปลี่ยนสนามรบเป็นตลาดการค้า” พัฒนาการความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอาเซียนก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้อาเซียนกลายเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการร่วมมือเพื่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ของประเทศในภูมิภาคให้ก้าวหน้ามากขึ้นเป็นลำดับ และทำให้อาเซียนกลายเป็นประชาคมที่สมบูรณ์ในท้ายที่สุดเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๕
สำหรับก้าวต่อไปอาเซียนจะต้องกำหนดเป้าหมายของการพัฒนาภูมิภาคร่วมกันอย่างยั่งยืนในทุกๆ มิติให้เป็นตัวกระตุ้นความร่วมมือของประชาคมอย่างสมบูรณ์ สามารถกระจายความเจริญไปสู่ทุกภาคส่วนของประเทศสมาชิก ผู้บรรยายอื่นๆ ได้แก่ นาย Simon Murdoc รองประธานมูลนิธิเอเชีย-นิวซีแลนด์ บรรยายเรื่องกลไกของรัฐบาลนิวซีแลนด์ที่ช่วยเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอาเซียน ศจ. Siah Hwee Ang มหาวิทยาลัยวิคตอเรีย บรรยายเรื่องโอกาสทางการค้า/ขายเปรียบเทียบระหว่างอาเซียน-จีน Sir Neville Jodan อธิการบดีมหาวิทยาลัยวิคตอเรียบรรยายเรื่องโอกาสทางธุรกิจในอินโดนีเซีย ศจ. Ian Williamson รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยวิคตอเรียบรรยายเรื่องบทบาทของผู้นำ และปัจจัยต่างๆ ที่แตกต่างแต่มีความสำคัญต่อการประกอบธุรกิจในอาเซียน และ Ms. Jenny McGregor ผจ. ฝ่ายกลยุทธ์ทางการค้าของ บ. สหกรณ์ Fonterra จำกัด บรรยายเรื่องการใช้อาเซียนเป็นกลไกไปสู่ความสำเร็จในการสร้างตำแหน่งที่มั่นของ Fonterra บนห่วงโซ่มูลค่าการผลิตในอุตสาหกรรมนม และผลิตภัณฑ์นมของโลก เป็นต้น