การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน ณ เวียงจันทน์

            เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 นายวิทวัส ศรีวิหค รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน (ASEAN Senior Officials’ Meeting) ณ เวียงจันทน์ โดยที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ อาทิ การดำเนินการตามแผนงานประชาคมอาเซียน 2025 พัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศนอกภูมิภาค และสถานะการจัดทำเอกสารสำคัญของอาเซียน เป็นต้น

            ที่ประชุมตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน 2025 (APSC Blueprint 2025) และการทำงานของคณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน สำนักเลขาธิการอาเซียน และคณะมนตรีประสานงานอาเซียนในประเด็นคาบเกี่ยวที่สำคัญ โดยไทยเสนอตัวเป็นประเทศผู้ประสานงานหลัก (shepherd) ในประเด็นการบริหารจัดการชายแดนและความเชื่อมโยง

            ที่ประชุมแสดงข้อห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี โดยเคารพเสรีภาพในการเดินเรือและบินผ่าน ยับยั้งชั่งใจ และไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาค พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea – DOC) และเร่งจัดทำแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (Code of Conduct for the South China Sea – COC) ให้แล้วเสร็จ

           ในโอกาสเดียวกัน ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาในระดับต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มประเทศนอกภูมิภาค อาทิ 1) ความสัมพันธ์อาเซียน-อียู โดยไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงาน ได้รายงานผลการหารือกับฝ่ายอียูเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมทั้งยืนยันความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-อียู ในช่วงปลายปี 2559 2) ความสัมพันธ์อาเซียน-กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (Pacific Alliance – PA) โดยไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิกได้รายงานความคืบหน้าการจัดทำเอกสารเพื่อกำหนดแนวทางอนาคตความร่วมมือระหว่างกัน และ 3) สำนักเลขาธิการอาเซียนได้รายงานความคืบหน้าการประเมินคำขอรับสถานะหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการของ 5 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีเหนือ อียิปต์ มองโกเลีย และเอกวาดอร์ นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดทำรายงานเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกของติมอร์-เลสเต โดยมีข้อเสนอให้จัดทำแผนงาน (roadmap) สำหรับการรับติมอร์ฯ เข้าเป็นสมาชิกด้วย

           นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าการจัดทำรายงานประเด็นอื่น ๆ ซึ่งที่ประชุมได้หารือกัน อาทิ ความคืบหน้าของการจัดทำ IAI Work Plan III ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือกับประเทศ CLMV ใน 5 สาขาหลัก ได้แก่ การพัฒนาชนบท วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การอำนวยความสะดวกการค้า การศึกษาและตลาดแรงงาน และสาธารณสุข รวมถึงความคืบหน้าการจัดทำวาระด้านความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนหลังปี ค.ศ. 2015 ซึ่งจะระบุยุทธศาสตร์ 5 สาขา ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน นวัตกรรมดิจิทัล โลจิสติกส์ การปรับปรุงกฎระเบียบ และการเคลื่อนย้ายด้านแรงงาน การศึกษา และการท่องเที่ยว ไทยย้ำความสำคัญของการนำวาระด้านความเชื่อมโยงฯ มาปฏิบัติได้จริงและการหาแหล่งเงินทุน โดยต้องให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกการค้าข้ามแดน การบริหารจัดการชายแดน  และการปรับประสานกฎระเบียบ