เมื่อวันที่ ๑ - ๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้เยือนนครแวนคูเวอร์และ      นครโตรอนโต ประเทศแคนาดา ภายใต้กิจกรรม  AEM Roadshow to Canada โดยนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้              

                        ๑.     คณะได้พบหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้บริหารองค์กรธุรกิจหลัก ๆ ของแคนาดา อาทิ ด้านพลังงาน คมนาคม การพัฒนานวัตกรรม และการสนับสนุนความร่วมมือภาครัฐ - ภาคเอกชน (Public Private Partnerships - PPP) เพื่อการลงทุน โดยเห็นได้ชัดว่าแคนาดาให้ความสำคัญกับอาเซียนอย่างมาก และมีความมุ่งมั่นที่จะขยายบทบาทในอาเซียน โดยมีการลงทุนในอาเซียนมากกว่าลงทุนในจีนกับอินเดียรวมกัน และค้าขายกับอาเซียนเพิ่มขึ้น สำหรับฝ่ายอาเซียน ก็ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของอาเซียนและความตกลงการค้าเสรีที่อาเซียนมีกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ทั้งนี้ ในระหว่างกิจกรรมข้างต้น นาย Ed Fast รัฐมนตรีการค้าแคนาดาได้เข้าร่วมกำหนดการด้วยเป็นส่วนใหญ่ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้ขอให้นาย Ed Fast นำคณะภาคเอกชนแคนาดาไปเยือนไทยในช่วงการประชุม Canada – ASEAN Business Council ที่กรุงเทพฯ ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘

                        ๒.     คณะได้เข้าพบหารือกับนาง Christy Clark มุขมนตรีรัฐบริติชโคลัมเบีย (บีซี) โดยนาง Clark กล่าวถึงความสำคัญของอาเซียนต่อรัฐบีซี ซึ่งมีประชากรครึ่งหนึ่งเกิดในเอเชียและค้าขายกับประเทศในเอเชียเป็นมูลค่าใกล้เคียงกับการค้ากับสหรัฐฯ

                        หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้ขอให้นาง Clark สนับสนุนการวางท่อส่งน้ำมันจากรัฐแอลเบอร์ตาผ่านรัฐบีซีไปจำหน่ายในเอเชีย เนื่องจากบริษัท ปตท. สผ. ได้ลงทุนเป็นมูลค่าสูงในโครงการน้ำมันทราย ซึ่งนาง Clark ตอบว่า หากบริษัท ปตท.สผ. และรัฐแอลเบอร์ตาสามารถปฏิบัติตามพันธะเรื่องการรักษาสภาพแวดล้อมทั้งบนบกและในทะเล ตลอดจนการเจรจาขอตกลงกับชนเผ่าพื้นเมือง และข้อตกลงเกี่ยวกับการคืนผลประโยชน์ให้แก่รัฐบีซีได้ ข้อเสนอดังกล่าวจะไม่มีปัญหาใดทั้งสิ้น

                         หัวหน้าคณะผู้แทนไทยยังได้ใช้โอกาสในการพบปะดังกล่าวชี้แจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย โดยย้ำว่า ในช่วง ๗ เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการมีประชาธิปไตยและเสรีภาพเกินขอบเขต รัฐบาลถูกขัดขวาง (shut down) จนไม่สามารถขับเคลื่อนเรื่องใดๆ ได้ เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ จึงเป็นการ restart กระบวนการที่จะนำประเทศกลับไปสู่ประชาธิปไตย ข้อดีคือ ไทยจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ทุกเรื่อง ทั้งการใช้และการจัดทำงบประมาณ การดำเนินการตามข้อผูกพันของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการสานต่อความตกลงที่รัฐบาลที่ผ่านมาได้เริ่มไว้กับนานาประเทศ รวมทั้งความตกลงการค้าเสรีที่แคนาดาอยากเห็น นอกจากนี้ การส่งเสริมการลงทุนและการทำธุรกิจจะมีธรรมาภิบาล มีความเข้มงวดต่อการทุจริตมากยิ่งขึ้น

*********************************************************

กระทรวงการต่างประเทศ

มิถุนายน ๒๕๕๗