1. ที่ประชุมเห็นพ้องกันในประเด็นความก้าวหน้าในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งยังมีประเด็นที่ต้องดำเนินการอีกหลายประการ จึงจำเป็นต้องมีการเร่งรัดการดำเนินการตามแผนงานจัดตั้งประชาคมอาเซียนทั้ง 3 เสาหลัก ให้ทันตามเป้าหมายปี 2558 โดยให้กำหนดประเด็นความสำคัญ (priority issues) ได้แก่ การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค การปรับกฎระเบียบให้สอดคล้องกัและการอนุวัติความตกลงทางเศรษฐกิจเพื่อการรวมตัวเป็น AEC  การลดมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี การลดช่องว่างด้านการพัฒนา การบริหารจัดการภัยพิบัติ การสร้างความรู้สึกร่วมกันของความเป็นอาเซียน รวมทั้งการให้คู่เจรจามาสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน ซึ่งที่ประชุมตกลงกำหนดวันที่จะบรรลุเป้าหมายการเป็นประชาคมอาเซียน คือวันที่ 31 ธ.ค. 2558

2. สำหรับการดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงในอาเซียนนั้น ที่ประชุมเห็นว่า ความท้าทายที่สำคัญที่สุด คือ การระดมทุนให้เพียงพอ โดยนอกเหนือจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund: AIF) ยังจำเป็นต้องหาแนวทางระดมทุนอื่นๆ จากประเทศนอกภูมิภาคและภาคเอกชน รวมทั้งการส่งเสริมกลไกประสานงานกับคู่เจรจา ADB และธนาคารโลก

3. ที่ประชุมยินดีต่อการรับรองปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Human Rights Declaration - AHRD) ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของอาเซียนในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภูมิภาค นอกจากนี้ อาเซียนจะประกาศการเจรจา Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP) ซึ่งจะเป็นเขตการค้าเสรีระดับภูมิภาคที่ครอบคลุมตลาดครึ่งหนึ่งของโลก โดยหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้ย้ำถึงความสำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน และการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในภูมิภาคและในโลก

4. ที่ประชุมได้แต่งตั้งนาย Le Loung Minh เป็นเลขาธิการอาเซียนปี 2556-2560 สืบต่อจาก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งลงในปีนี้

5. ประเด็นที่ประเทศไทยได้ผลักดันในที่ประชุมครั้งนี้ได้แก่ 1) ข้อริเริ่มและส่งเสริมความร่วมมือด้านข้าวและยางพาราเพื่อให้ราคามีเสถียรภาพและสามารถส่งออกได้มากขึ้น 2) ผลักดันให้มีความร่วมมือข้ามพรมแดนระหว่างหน่วยงานด้านยาเสพติดเพื่อส่งเสริมการสร้างอาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติด 3) เร่งรัดการพิจารณาอนุสัญญาการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอาเซียน รวมทั้งผลักดันการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อปูทางไปสู่การจัดทำอนุสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย 4) แสดงความพร้อมในการเป็นสถานที่เก็บสำรองข้าวในการบรรเทาภัยพิบัติ และ 5) สนับสนุนให้ประเทศอาเซียนอื่นเข้าร่วมในโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย